พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต

         วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520 เวลาประมาณ 08.40 นาฬิกา หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต ประทับเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ หมายเลข 1715 ซึ่งมีร้อยตำรวจเอกอภิรัตน์ พิลึก เป็นนักบินที่ 1 ร้อยตำรวจตรีวีนัส ฉิมน้อย เป็นนักบินที่ 2 พลตำรวจสนธยา เขียวสุขใจ และพลตำรวจอุดมศักดิ์ ชัยวรรณ เป็นช่างเครื่อง และทำหน้าที่พลประจำปืน ในวันนี้มีแผนจะเสด็จเยี่ยม อำเภอพระแสง อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธร อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งปฏิบัติงานร่วมกัน จุดสุดท้ายจะเสด็จเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เข้าโจมตี เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2520 จากการต่อสู้อย่างเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีพันตำรวจตรี ไพฑูรย์ ประเสริฐ เป็นสารวัตรใหญ่ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ไม่อาจยึด และทำลายที่ตั้งได้ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน และบาดเจ็บจึงล่าถอยไปในที่สุด

         การเดินทางในวันนี้ มีผู้ร่วมเดินทางจำนวน 9 คน คือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ครูบาธรรมไชย พันตำรวจโท สุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้กำกับกา รตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 นายแพทย์สุพาสน์ บูรพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครศรีธรรมราช ร้อยตำรวจโท ยุทธนา ปาละนิติเสนา ผู้บังคับห มวดประจำกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 นางมาลี จันทรักษ์ พยาบาล, นายกิตติ ขันธมิตร มหาดเล็กหลวง นายวิชัย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปู่


         ระหว่างเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงทราบจากวิทยุสื่อสาร ซึ่งใช้ติดตัวในระหว่างเดินทางว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งไปทำการสร้างบ้านพักพระราชทานให้แก่ราษฎร ที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มีอาการสาหัส จำนวน 2 นาย คือ สิบตำรวจเอกบุญเลิศ กัววงศ์ และสิบตำรวจโทนิคม หมีทอง จึงได้รับสั่งให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลก่อน แต่ พันตำรวจโทสุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา ได้ทูลว่าจะไปส่งท่านและคณะ ที่สถานีตำรวจภูธร อำเภอเคียนซา เพื่อเสด็จเยี่ยมตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธร และอาสาสมัคร เพื่อจะให้เฮลิคอปเตอร์ไปรับคนเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แต่ด้วยความห่วงใยตำรวจตระเวนชายแดนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยไม่คิดถึงพระองค์เองได้รับสั่งให้ลงรับคนเจ็บไปพร้อมเฮลิคอปเตอร์ทีเดียว พันตำรวจโท สุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา ได้ทูลว่าผู้โดยสารเต็ม ไม่สามารถรับคนเจ็บเพิ่มขึ้นมาได้อีก หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต จึงได้รับสั่งให้เฮลิคอปเตอร์ลงที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุห่างประมาณ 7-8 กิโลเมตร ในทางตรง เพื่อให้คณะทั้งหมดลงยกเว้นนายแพทย์ สุพาสน์ บูรพัฒน์ เพื่อไปรับคนเจ็บ นอกนั้นจะพักรออยู่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 เมื่อส่งเจ็บที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว เฮลิคอปเตอร์จึงจะมารับคณะเดินทางไปอำเภอเคียนซาต่อไป
ภายหลังได้รับทราบจากนายแพทย์สุพาสน์ บูรพัฒน์ว่า ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะร่อนลงที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต ทรงสั่งนายแพทย์ สุพาสน์ บูรพัฒน์ ว่า “เดี๋ยวฉันจะไปกับหมอมาลีด้วย ” ต่อจากนั้นทรงเขียนคำสั่งย่อบนกระดาษ มีใจความว่า “เดี๋ยวให้ทุกคนลง เจ้าหญิงจะไปรับคนเจ็บ 2 คน กับหมอ กับผู้กำกับ หลวงปู่ คอยสักครู่ที่โรงตำรวจ หลวงพ่อปู่สวดมนต์คุ้มครองให้พวกเราปลอดภัยด้วย หมู่นี้มันยิงเรือบินเกือบทุกวัน เดี๋ยวจะมารับไปพระแสงเคียนซา”แล้วส่งให้ คุณกิตติ ขันธมิตร มหาดเล็กหลวง รับทราบคำสั่ง เมื่อเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงหน้าโรงเรียนเวียงสระซึ่งอยู่ติดกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 พันตำรวจโท สุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา หลวงพ่อ หลวงปู่ และคุณวิชัยฯ ลงจากเครื่อง ซึ่งเข้าใจว่า คณะลงที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 หมดทุกคน ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 เห็นว่า หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต มีความประสงค์ต้องการจะเข้าไปรับผู้บาดเจ็บด้วยพระองค์เอง จึงได้ติดตามกลับขึ้นเครื่องและเนื่องจากได้รับรายงานว่า ผู้บาดเจ็บไม่สามารถนั่งได้ ช่างเครื่องจึง ได้พับเก้าอี้ด้านหลังเก็บเพื่อให้มีที่ว่างพอให้คนเจ็บนอนขณะนั้น ร้อยตำรวจโทสุทน วันเพ็ญ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งมารับที่เครื่อง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 ร้อยตำรวจโทยุทธนา ปาละนิติเสนา ได้ลงไปยืนข้างเครื่องคนละด้านช่วยขนสิ่งของลง ส่วนร้อยตำรวจโทสุทน วันเพ็ญ เตรียมตัวเดินทางไปรับคนเจ็บพร้อมเครื่องด้วย หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต นายแพทย์สุพาสน์ฯ และคุณมาลี เลื่อนไปนั่งเก้าอี้แถวหน้า และรับสั่งเร่งให้ทุกคนขึ้นเครื่อง
การบินครั้งนี้เครื่องเปิดประตูทั้ง 2 ด้าน ขณะบินมาเหนือสวนผลไม้และเหนือสวนยางพารา ซึ่งกำลังผลัดใบพ้นทางรถไฟ และรถยนต์เข้าเหมืองเพียงครู่เดียว นักบินเห็นบ้านพระราช ทานห่างประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ ซึ่งเป็นบริเวณที่หมายที่จะต้องไปรับคนเจ็บ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังรัวถี่ยิบ ยิงขึ้นมาจากข้างล่าง บริเวณสวนยางด้านซ้ายกระสุนชุดแรกถูกขาซ้ายของผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 ขณะกำลังตะโกนสั่งการทางวิทยุให้พลประจำปืน ทั้ง 2 กระบอก ทำการยิงต่อสู้และสั่งนักบินให้นำเครื่องออกจากบริเวณนั้นทันที เสียงกระสุนปืนกระทบเครื่องบินดังทั่วไปหมด และในขณะเดียวกันก็ ได้ยินเสียงหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต รับสั่งว่า “ฉันถูกยิง” เมื่อ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 หันไปดูเห็นพระพักตร์ฟุบและพระองค์เซมา จึงได้ประคององค์ไว้ ส่วนนายแพทย์ สุพาสน์ฯ ได้เข้าช่วยกับคุณมาลี โดยจับแขนท่านไว้ หมอใช้มืออีกข้างหนึ่งพยายามอุดปากแผลไม่ให้เลือดออกมาก จนเกินไป แต่ขณะที่เครื่องกำลังร่อนลง ผู้กับการตำรวจตระเวนชายแดนที่เขต 8 ได้สบตากับนายแพทย์ ซึ่งจับชีพจรท่านอยู่ส่ายศีรษะ ก็เข้าใจทันทีว่าหมดหวังเสียแล้ว ห้วงระยะชุลมุนนี้ ได้สั่งให้นักบิน บินไปยังโรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ปรากฏว่านักบินนำเครื่องลงฉุกเฉินที่สนามหน้าโรงเรียนวัดบ้านส้องทราบจากนักบินภายหลังว่า เครื่องไม่สามารถบินต่อไปได้ เข็มวัดเครื่องทุกตัวไม่ทำงาน เครื่องอาจระเบิดได้ทุกวินาที
นายแพทย์สุพาสน์ฯ ได้จัดให้หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต เอนนอนบนที่นั่งของเครื่องตรงที่ประทับอยู่ และหาหนทางช่วยเหลือโดยถวายน้ำเกลือที่ข้อเท้าขวา ในขณะเดียวกัน ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต 8 ได้สั่งการไปยังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3 ได้จัดรถนำหลวงพ่อ หลวงปู่มาส่งที่โรงเรียนวัดบ้านส้อง หลังจากที่นายแพทย์ถวายน้ำเกลือได้ประมาณ 5 นาที พระอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด ไม่มีอาการเจ็บปวด ทุรนทุราย รับสั่งประโยคแรกที่ยังหลับพระเนตรว่า “ตำรวจตระเวนชายแดนเป็นอย่างไรบ้างเอาออกมาได้หรือยัง ไห้รีบไปส่งโรงพยาบาล อย่าให้พวกมันรู้ว่าฉันถูกยิง มันจะเหิมเกริม...ปวด...เมื่อย..” สักครู่รับสั่งต่อไปว่า “ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วตำรวจตระเวนชายแดนมาหรือยัง ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลด่วน....คุณสุดินทร์ นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเร็วเข้า” ตลอดเวลาได้รับสั่งถึงแต่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ได้รับบาดเจ็บ ได้นำส่งโรงพยาบาลแล้วหรือไม่ นายแพทย์ สุพาสน์ฯ ทูลว่า ตำรวจตระเวนชายแดนส่งลงที่โรงพยาบาลแล้ว ทรงรับสั่งว่า “เครื่องยังไม่ขึ้น” ซึ่งทุกคนเข้าใจดีว่า หมายถึงเครื่องที่ประทับไม่ได้ขึ้นไป คนเจ็บจะมาได้อย่างไร จนกระทั่งนายแพทย์สุพาสน์ฯ ทูลว่าคุณสุดินทร์ฯ เอาคนเจ็บไปไว้ที่โรงพยาบาลบ้านส้องแล้ว จึงได้หยุดรับสั่ง
          เมื่อหลวงพ่อ หลวงปู่ เดินทางมาถึง หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต ทรงรับสั่งกับหลวงพ่อ หลวงปู่ว่า “ร้อน....หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย หลวงพ่อ หลวงปู่ ช่วยไปนิพพนานไม่เกิดแล้ว” หลวงพ่อบอกว่า “การจะไปนิพพานนั้นดี แต่ท่านหญิงยังมีประโยชน์ต่อประเทศชาติมาก” รับสั่งว่า “ให้กราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัว ท่านชาย ท่านแม่” ทรงย้ำอยู่ 2 ครั้ง แล้วไม่รับสั่งอะไรอีก
         เฮลิคอปเตอร์ตำรวจ หมายเลข 1725 จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีพันตำรวจตรี มงคล สุทธิบุตร และร้อยตำรวจตรีทวีชัย สุพรรรณเภสัช นักบิน เดินทางมาถึง จึงได้นำหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต ประทับเครื่องลำใหม่เดินทางไปโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ขณะนั้นเครื่องเฮลิคอปเตอร์กองทัพบกซึ่งมี พลโทปิ่น ธรรมศรี แม่ทัพกองทัพภาคที่ 4 เดินทางมาถึง จึงได้รับ หลวงพ่อ หลวงปู่ ตามไปที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นายแพทย์สุพาสน์ฯ ซึ่งถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดแจ้งให้ทราบ ในขณะที่มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีว่า หม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต ได้สิ้นชีพิตักษัยแล้ว จึงนำพระศพไปแต่งบาดแผลที่ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และได้ถวายธงชาติคลุมพระศพ พลตำรวจโท ชุมพล โลหะชาละ ได้ถวายเครื่องบินสกายแวน ซึ่งไปตรวจราชการ มารับพระศพกลับสู่กรุงเทพฯ เวลา 17.00 นาฬิกาวันเดียวกัน

จากวารสาร 40 ปี ตชด. 6 พฤษภาคม 2536 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

จากวารสาร 40 ปี ตชด. 6 พ.ค. 2536 บช.ตชด.